Innocent Witness เป็นภาพยนตร์แนวกฎหมายผสม court room คือมีการพิจารณาว่าความในชั้นศาล และสืบหาความจริงเพื่อช่วยจำเลยหลุดพ้นคดีฆาตกรรมนายจ้าง และเรื่องราวดรามาจากตัวพยานซึ่งเป็นเด็กออทิสติก แต่เห็นเหตุการณ์ฆาตกรรม  แน่นอนว่า คำถามแรกๆในใจเราที่ผุดขึ้นมา คือ จะสื่อสารกับเธออย่างไร เธอเข้าใจสิ่งที่เห็นถูกต้องไหม จะให้เธอขึ้นเป็นพยานอย่างไร ให้การได้หรือ น่าเชื่อถือไหม

นักกฎหมายหรือทนายความเป็นอาชีพที่ค่อนข้างมีความเฉพาะ คล้ายกับอาชีพหมอและเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างหนึ่งนะ คือส่วนใหญ่แล้วโอกาสที่จะเจอทั้งสามอาชีพนี้ก็คือตอนที่เรามี “ปัญหา” หากเราไม่เจ็บป่วยคนในครอบครัวไม่ป่วยหรือไม่ได้มีคนรู้จักป่วย เราก็คงไม่คิดอยากไปโรงพยาบาล เหมือนกันกับอาชีพตำรวจและทนายความ ที่คงจะได้เจอตอนที่มีปัญหาไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายโจทย์หรือจำเลยเสียเอง ซึ่งหนัง Innocent Witness (2019) เรื่องนี้ก็หยิบเอาแง่มุมของทนายความในอุดมคติมาเล่า และตั้งคำถามท้าทายตัวละครว่าเขาจะเป็นในแบบนั้นได้หรือไม่

ในคืนหนึ่งที่ อิมจีอู (Hyang-gi Kim) เด็กมัธยมวัย 15 ปี เธอเป็นเด็กพิเศษออทิสติกที่กลายมาเป็นพยานในคดีฆาตกรรม เมื่อ จีอู เห็นเหตุฆาตกรรมผ่านหน้าต่างของบ้านฝั่งตรงข้าม คนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ก็คือ โอมิรัน (Hye-ran Yeom) แม่บ้านที่ดูแลเจ้าของบ้านหลังนั้น ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่อยู่บ้านตามลำพัง เธอยืนยันว่าสิ่งที่เธอทำไม่ใช่การฆาตกรรม แต่เป็นการให้ความช่วยเหลือแก่ชายชรา ที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการ ใช้ถุงพลาสติกครอบหัวตัวเองให้ขาดอากาศหายใจ

สรุปแล้ว Innocent Witness (2019) เป็นหนังดราม่าที่ขอเรียกว่าแนวอุดมคติโลกสวยดีงามก็แล้วกัน เมื่อดูจบแล้วหนังให้มุมมองที่เป็นด้านบวกแก่ผู้ชม อาจจะไม่ดราม่าเข้มข้นหรือมีความบันเทิงมากนัก แต่ก็ทำได้น่าติดตามอยู่ในระดับดูได้เพลิน ๆ ไม่มีช่วงไหนน่าเบื่อเลย เอาแค่แง่มุมดี ๆ จากหนังกับเสพการแสดงของ จองอูซองกับคิมฮยังกี ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว